วิธีการทำชาใบข้าว
ชาเขียวจากต้นอ่อนข้าวหอม
ทำได้โดยตัดใบจากต้นอ่อนข้าวหอมพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105, ปทุมธานี 1 อายุ 14-21 วัน
นำมาล้างทำความสะอาด ผึ่งลมให้แห้งนำมาหั่นตามขวางขนาดยาว 1-2 เซนติเมตร แล้วเอาไปคั่วในกระทะด้วยไฟอ่อนๆ หรืออบที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียสจนกระทั่งใบข้าวแห้งและมีน้ำหนักคงที่
ก็จะได้ชาเขียวจากใบต้นอ่อนข้าวหอม
น้ำชาเขียวจากต้นอ่อนข้าวหอมไม่มีรสฝาดเหมือนชาจีนแต่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของข้าวหอม
สำหรับปริมาณวิตามินและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย พบว่า
ในชาเขียวจากต้นอ่อนข้าวหอมมีวิตามินซี 4.42-6.60 มิลลิกรัม/100
กรัม วิตามินอี 4.18-5.34 มิลลิกรัม/100
กรัม คลอโรฟิลล์ 7.68-8.69 มิลลิกรัม/100
กรัม และเบต้ากลูแคน 4.01-4.16 มิลลิกรัม/100
กรัม
ขั้นตอนการทำ
ชาเขียวจากต้นอ่อนข้าว
|
ข้าวสาลีนอกจากจะแปรรูปเป็นแป้งข้าวสาลีและผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น
เส้นบะหมี่ ขนม และเบเกอรี่ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ชาจากต้นอ่อนของข้าวสาลี
ซึ่งมีโปรวิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี อี และ เค เป็นจำนวนมาก มีคุณสมบัติช่วยรักษาโรคภูมิแพ้และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
นอกจากนี้พบว่าน้ำต้นข้าวสาลีมีโปรตีนอยู่ร้อยละ 25 ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับ
เนื้อ ปลา ไข่ นม หรือถั่วต่าง ๆ
|
ขั้นตอนการผลิตชาจากข้าว
|
1. เพาะต้นกล้าข้าวสาลีและตัดเมื่ออายุ
10-12 วัน (แตกใบอ่อนประมาณ 4 ใบ
เป็นช่วงอายุที่มีอาหารสะสมมาก) โดยตัดให้เหนือข้อลำต้นใบข้าวสาลีที่ตัดมาแล้วต้องทำให้เสร็จวันต่อวัน
เพื่อให้คงคุณค่าสารอาหาร
2. เลือกใบที่ปราศจากโรค/แมลง ล้างด้วยน้ำสะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ 3. หั่นใบให้มีขนาดความยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร ผึ่งซับน้ำบนผ้าขาวบาง 4. นำใบที่หั่นมาคั่วในกระทะด้วยมือโดยใช้ไฟอ่อนๆ ตรวจความร้อนโดยใช้มือสัมผัสกระทะหากสามารถสัมผัสได้ถือว่าให้ความร้อนพอดี เมื่อคั่วจนแห้งแล้วพักให้เย็น 5. บรรจุชาในภาชนะทึบแสง เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียคุณค่าสารอาหาร และไม่ให้เปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ใบข้าวอ่อน
ใบข้าว ตัดซอยยาวสั้นตามสะดวก
เพื่อนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่นหรือตำให้ละเอียดผสมน้ำแล้วกรอง 1 กำมือ น้ำประมาณ 2 แก้ว การปั่นให้ละเอียดยิบ
ไม่ต้องกรองก็ได้จะได้กากใยมาก
การเพิ่มความหวานด้วยน้ำตาลทรายแดง ใบหญ้าหวาน ที่ทำเป็นน้ำเชื่อม
หรือน้ำผึ้ง ฯ ตามชอบ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น